วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

หนอนอินเตอร์เน็ต (Worm)

หนอนอินเตอร์เน็ต  (Worm)
                      หนอนอินเตอร์เน็ต  (Worm) คืออะไร


                        หนอนอินเตอร์เน็ต  (Worm) เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่นเดียวกับโปรแกรมไวรัส แต่แพร่กระจายผ่านเครือข่ายไปยังคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เครื่องอื่น ๆ ที่ต่ออยู่บนเครือข่ายด้วยกัน ลักษณะการแพร่กระจายคล้ายตัวหนอนที่เจาะไชไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ แพร่พันธุ์ด้วยการคัดลอกตัวเองออกเป็นหลาย ๆ โปรแกรม และส่งต่อผ่านเครือข่ายออกไป และสามารถแพร่กระจายผ่านทางอีเมล์ได้ ไม่ว่าจะเป็น Outlook Express หรือ Microsoft Outlook

ตัวอย่างหนอนอินเตอร์เน็ต  (Worm)
1.W32 VB.UT.worm
             W32VB.UT.worm ขนาดไฟล์ 88.0 K ความร้ายแรงระดับสูง มันจะเปลี่ยนไฟล์CMD.EXE, Taskmgr.exe, regedit.exe, msconfig.exe ให้เป็นไฟล์ของมันแทนคือ ขนาด 88.0 K เมื่อเราดับเบิ้ลคลิกใช้ไฟล์พวกนี้ก็เท่ากับคลิกตัวมันให้ทำงานนั่นเอง เมื่อใช้โปรแกรมแอนตี้ไวรัสฆ่ามันได้แล้ว แต่โปรแกรมพวกนี้ก็ยังใช้งานไม่ได้อยู่ดี ต้องไปหาไฟล์พวกนี้CMD.EXE, Taskmgr.exe, regedit.exe, msconfig.exe จากเครื่องอื่น ๆมาใส่แทนจึงจะใช้งานได้ อาการแสดงออกเมื่อติดเชื้อ W32 VB.UT.worm
1.       Folder Option จะหายไป
2.       ใช้ Task Manger ไม่ได้
3.       ใช้ Regedit ไม่ได้
4.       ใช้ Msconfig ไม่ได้
5.       ใช้ CMD ไม่ได้ (จากข้อ 2 - 5 เพราะมันเปลี่ยนเอาไฟล์ของมันมาใส่แทนไว้)
6.       เมื่อเปิด IE Browser... บนไตเติ้ลบาร์จะมีชื่อ Hacked by 1BYTE
7.       ทุกไดร์ฟจะเป็น Auto หมด จะดับเบิ้ลคลิกเปิดไดร์ฟตามปกติไม่ได้ (ดับเบิ้ลคลิกเท่ากับทำให้มันทำงานต่อไป)
8.       จะดับเบิ้ลคลิกไฟล์ .BAT บนเดสท๊อบไม่ได้
9.       บางครั้งถ้าเราพยายามจะฆ่ามัน อาจจะมีรูปหัวกระโหลกไขว้ขึ้นมาหน้าจอจะเป็นสีดำกระพริบ ต้องรีบปิดเครื่องทันทีไม่เช่นนั้นมันจะฟอร์แมตไดร์ฟต่าง ๆ ทิ้งทั้งหมด 
2.INF/Autorun.gen: ภัยคุกคามประเภทหนอน (Worm) หนึ่งในตระกูล Autorun พบการระบาดที่ 2.51% มีการแพร่กระจายทั้งภายใน, เครือข่าย, และอุปกรณ์ต่อพ่วง ซึ่งหลังจากที่มันก็ปปี้ตัวเองไปยังไดรฟ์แล้ว หนอนนี้ก็จะสร้างไฟล์ขึ้นมาใหม่ชื่อว่า ‘autorun.inf’ ใน root ของไดร์ฟเป้าหมาย โดยภายในไฟล์ autorun.inf นี้จะถูกเขียนคำสั่งให้ทำงานหลังจากผู้ใช้เปิดไดร์ฟต่าง ๆ ขึ้นมา ซึ่งทำให้หนอนตัวนี้ก็จะถูกก็อปปี้ตามไปด้วย สามารถป้องกันได้โดยพยายามอัพเดทฐานข้อมูลไวรัส และ Windows อย่างสม่ำเสมอ, สแกนอุปกรณ์ต่อพ่วงก่อนทุกครั้งที่จะใช้งาน และปิดการใช้งาน Windows autorun 
3.Win32/Sality.NBA: เป็นภัยคุกคามประเภทหนอนเช่นกัน และมีชื่อเสียงในความร้ายกาจยาวนานข้ามปี ทั้งยังมีมากมายหลายสายพันธุ์อีกด้วย โดยพบอยู่ที่ 2.22% พฤติกรรมของหนอนตัวนี้การเข้าไปค้นหาไฟล์นามสกุล .exe ทั้งจาก local และ network drive สามารถแพร่กระจายได้โดยการแตกไฟล์ .exe นั้นและแฝงตัวเพิ่มเข้าไปบางส่วนในไฟล์ .exe นั้น เมื่อมีการทำงานของไฟล์ .exe ตัวใดหนอนตัวนี้ก็จะถูกเปิดขึ้นมาด้วย นอกจากนั้นยังเข้าไปปิดการทำงานต่าง ๆ ของระบบ, ปิดการทำงานของระบบความปลอดภัย และ System Restore ของ Windows 
4.INF/Autorun : ภัยคุกคามประเภทหนอน (Worm) พบการระบาดที่ 1.73% มีการแพร่กระจายทั้งภายใน, เครือข่าย, และอุปกรณ์ต่อพ่วง ซึ่งหลังจากที่มันก็ปปี้ตัวเองไปยังไดรฟ์แล้ว หนอนนี้ก็จะสร้างไฟล์ขึ้นมาใหม่ชื่อว่า ‘autorun.inf’ ซึ่งจะถูกเขียนคำสั่งให้ทำงานหลังจากผู้ใช้เปิดไดร์ฟต่าง ๆ ขึ้นมาเองโดนอัตโนมัติ สามารถป้องกันได้โดยพยายามอัพเดทฐานข้อมูลไวรัส และ Windows อย่างสม่ำเสมอ, สแกนอุปกรณ์ต่อพ่วงก่อนทุกครั้งที่จะใช้งาน และปิดการใช้งาน Windows autorun 
5.INF/Autorun.Sz: หนอนตระกูล Autorun พบการระบาดที่ 1.32% โดยหลังจากที่มันก็ปปี้ตัวเองไปยังไดรฟ์แล้ว หนอนนี้ก็จะสร้างไฟล์ขึ้นมาใหม่ชื่อว่า ‘autorun.inf’ ซึ่งจะถูกเขียนคำสั่งให้ทำงานหลังจากผู้ใช้เปิดไดร์ฟต่าง ๆ ขึ้นมาเองโดนอัตโนมัติ สามารถป้องกันได้โดยพยายามอัพเดทฐานข้อมูลไวรัส และ Windows อย่างสม่ำเสมอ, สแกนอุปกรณ์ต่อพ่วงก่อนทุกครั้งที่จะใช้งาน และปิดการใช้งาน 




ไวรัสคอมพิวเตอร์

ไวรัสคอมพิวเตอร์
ไวรัสคอมพิวเตอร์ คืออะไร
       ไวรัสคอมพิวเตอร์ คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ถูกออกแบบมาให้มีคุณสมบัตินําตัวเองไปติดปะปนกับโปรแกรมอื่น ที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา เพื่อก่อกวนทำลายระบบคอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลชุดคำสั่ง หรืออุปกรณ์ต่างๆ เช่น แผ่นดิสก์ ฮาร์ดดิสก์ หน่วยความจำคอมพิวเตอร์ และเป็นโปรแกรมที่สามารถกระจายจากคอมพิวเตอร์ตัวหนึ่ง ไปยังคอมพิวเตอร์อีกตัวหนึ่งได้โดยผ่านระบบสื่อสารคอมพิวเตอร์ เช่น โดยผ่านทาง แผ่นบันทึกข้อมูล (Diskette ) แฟรชไดรฟ์ หรือระบบเครือข่ายข้อมูล ซึ่งคอมพิวเตอร์ที่โดนไวรัสเล่นงานจะเกิดความเสียหาย ต่อข้อมูลที่อยู่บนดิสก์หรือฮาร์ดดิสก์ หรือเกิดการทํางานที่ไม่พึงประสงค์เช่น การลบไฟล์ที่เก็บอยู่ในฮาร์ดดิสก์หรือฟอร์แมตฮาร์ดดิสก์เป็นต้น
ตัวอย่างไวรัสคอมพิวเตอร์
1.Win32/Somoto.A:ภัย คุกคามประเภท Adware หรือเหล่าโฆษณาที่เพิ่งมาแรง มีการระบาดที่ 8.99%  แพร่กระจายผ่านทางเว็บไซต์กลุ่มเสี่ยงต่าง ๆ เช่น เว็บอนาจาร  เว็บแจกเครื่องมือแคร็ก เป็นต้น  เมื่อมีการติดที่เครื่องแล้วภัยคุกคามตัวนี้จะเข้าไปแก้ไขไฟล์ระบบ  ภายในคอมพิวเตอร์ทำให้รู้สึกได้ว่าคอมพิวเตอร์ไม่ปกติ  นอกจากนั้นมันอาจเข้าไปเปลี่ยนการตั้งค่าที่เบราเซอร์ เพื่อให้ redirect  ไปยังเว็บไซต์กลุ่มเสี่ยงได้อีกด้วย
2.Win32/Agent.RNS:  ไต่ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 6  ภัยคุกคามที่เพิ่งติดอันดับเข้ามาใหม่พบการระบาดอยู่ที่ 1.95%  เป็นภัยคุกคามประเภท Backdoor มีจุดประสงค์ในการลบไฟล์สำคัญ  และทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ หรือระบบเน็ตเวิร์คถูกปิดอย่างสมบูรณ์  ซึ่งไม่ได้ใช้ทรัพยากรเน็ตเวิร์คในการแพร่กระจาย  แต่สามารถกระจายผ่านทะลุระบบเน็ตเวิร์คได้โดยแนบตัวเองไปกับ worm อื่นๆ  นอกจากนั้น Win32/Agent.RNS  นี้ยังสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกชนิดที่ถูกเก็บอยู่ในคอมพิวเตอร์ เช่น  ข้อมูลส่วนตัว และข้อมูลทางการเงิน เป็นต้น  ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถใช้คอมพิวเตอร์ที่ติดภัยคุกคามเป็นการโจมตีแบบ  botnet ได้อีกด้วย
3. Defo: มีการระบาดที่ 7.71%  เป็นภัยคุกคามประเภทไวรัสที่เข้าไปเกาะ Master Boot Record (MBR) ของ Harddisk มีผลทำให้ CPU ทำงานหนักขึ้นเมื่อมีการใช้เครื่อง สามารถกำจัดได้โดยการทำแผ่น Sysrescue จากโปรแกรม ESET 
 4.Win32/Ramnit.A:ภัย คุกคามประเภทไวรัสมี พบอยู่ที่ 1.17%  โดยตัวมันเองมีความสามารถถ่ายภาพหน้าจอส่งข้อมูลบนเครื่องของเหยื่อไปยังนักโจมตีดาวน์โหลดไฟล์จากคอมพิวเตอร์ควบคุมระยะไกล หรือจากอินเตอร์เน็ต, สั่งไฟล์  .exe ให้ทำงาน และสั่ง shut down หรือ รีสตาร์ตคอมพิวเตอร์ได้
5. HTML/Fraud.BG: โทรจันที่ไต่มาจากอันดับ 9 ทำหน้าที่ในการขโมยข้อมูลสำคัญส่งไปที่ผู้ควบคุม ใช้วิธีการหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลส่วนตัวเพื่อทำแบบสำรวจ จะปรากฎอยู่ตามหน้าเว็บต่าง ๆ พบการระบาดที่1.60%

  ที่มา: https://eset.co.th


Firewall

Firewall


ไฟร์วอลคืออะไร
          ไฟร์วอลคือซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ที่ตรวจสอบข้อมูลที่มาจากอินเทอร์เน็ตหรือเครือข่าย แล้วบล็อกข้อมูลนั้นหรืออนุญาตให้ข้อมูลนั้นผ่านเข้ามายังคอมพิวเตอร์ของคุณ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าไฟร์วอลของคุณ
หน้าที่ของไฟร์วอล
          ไฟร์วอลจะช่วยป้องกันไม่ให้แฮกเกอร์หรือซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตราย (เช่น หนอนไวรัส) เข้าถึงคอมพิวเตอร์ของคุณผ่านทางเครือข่ายหรืออินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ ไฟร์วอลล์ยังช่วยหยุดไม่ให้คอมพิวเตอร์ของคุณส่งซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นอีกด้วย

ที่มา: http://windows.microsoft.com